ความรู้สึกของเราที่ได้ทำงานร่วมกับเพาะรัก
เพี๊ยซ :เราดีใจมากที่ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้เพราะทุกๆคนที่มาทำงานเพื่อสังคมล้วนแต่ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆตอบแทน
พวกเขาขอเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่พวกเขาได้ไปช่วยเท่านั้นก็เกินพอแล้ว
งานแรกของเราที่ร่วมกับเพาะรักคือเมื่อวันเสาร์ที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเป็นอาสาสมัครช่วยพาคนพิการ
ซึ่งเป็นตัวแทนที่มาเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับคนพิการนั้นไปเที่ยวชมกรุงเทพ ซึ่งงานนี้เป็นงานแรกและก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่อย่างเรา
ที่จะต้องดูแลคนพิการถึง 12 คน และเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งมีคนพิการชาวไทย 2 คน มีคนนั่งรถเข็นทั้งหมด 6คน ใช้ไม้เท้า 2 และตาบอด 2 คน
เรามีหน้าที่ดูแลคนตาบอดชาวแอฟริกัน ในตอนแรกเราไปรับพวกเขาที่โรงแรมเพื่อที่จะนำสัมภาระของพวกเขาขึ้นรถเพราะว่าเขาจะเดินทางกลับกันวันนี้
เราก็พาคนตาบอดที่เราดูแลเดินออกมาหน้าโรงแรม ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาจะต้องลงทางบันไดหรือทางลาด เรากจึงพาเขาลงทางบันไดเพราะเห็นบ่อยจากในหนัง
พอลงไปได้ 1 ขั้น พี่ที่กำลังยกไม้เท้าขึ้นรถเขาก้เอาไม้เท้ามากระแทกเราทำให้เราล้มและกระแทกคนตาบอด
ทำให้เขาล้มลงหน้าบันได คนตาบอดที่เราจูงน่าจะน้ำหนักประมาณ 120 กิโลกรัมเห็นจะได้ คือตัวใหญ่มาก
และเราก็เป็นผู้หญิงหุ่นธรรมดา จากนั้นเราก็แบบพยายามหาคนอื่นมาจูงแทนเราแบบตีตัวออกห่างไปเลย
ที่แรกที่เราไปคือวัดพระแก้ว พอลงรถเราก้ต้องจูงคนนั้นอยู่ดีแบบเรากลัวมากที่จะต้องจูงเขาอีกไม่ได้รังเกียจนะแต่เรากลัวทำเขาล้มอีกอ่ะ
จะให้พี่ๆเขามาจูงแทนเขาก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ เราพอพูดรู้เรื่องก็เลยต้องเป็นคนที่จูงเขาแทนเพราะว่าต้องอธิบายและก็บอกทางเขาด้วย
ตอนแรกๆเราก็เก็งๆที่จะต้องชวนเขาคุยนะแบบไม่รุ้ว่าจะคุยอะไรดี แล้วเขาจะสนใจรึป่าวก็ไม่รู้ ที่เราคิดไว้คือ เขาจะมาดูทำไมลำบากป่าวๆ
มองไม่เห็นแล้วจะรู้เหรอว่าเป็นไง
พอจูงเขาไปเรื่อยๆ เข้าไปถึงข้างในวัดพระแก้ว ตรงที่มีจิตรกรรมฝาผนัง เราก็อธิบายให้เขาฟังตามที่ได้ยินจากเจ้าหน้าที่
เราก็บอกว่ามันสวยมาก แล้วมันจะมีกลอนที่ติดอยู่บนต้นเสา เจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าให้เราเอามือเขาไปสัมผัส
พอเราเอามือเขาไปสัมผัสเขาก้คลำไปเรื่อยแล้วก็บอกให้เราลองอ่านให้เขาฟัง เราก็อ่าน มันเป็นกลอนที่อ่านยากมากๆอะ เรายังแปลไม่ค่อยออกเลย พออ่านจบ เค้าก็ถามว่ามันแปลว่าอะไร เรางี้???ขึ้นเลย แบบแปลไม่ออกจริงๆมันเป็นภาไทยโบราณอ่ะ
ปุ้ย : หลังจากที่เพ๊ยซเขียนความรู้สึกซะยืดยาวก็มาถึงคิวเราแล้ว อืมม...ตอนแรกก็รู้สึกขี้เกียจไปนิดหน่อย เพราะพี่ๆนัดเราเช้ามากแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีรถไปหรือเปล่า โชคดีค่ะมีรถไปท่าพระจันทร์ จากนั้นเราก็ไปรับคนพิการกัน เป็นคนแอฟริกันเกือบทั้งหมด เราสองคนมีหน้าที่ดูแลคนตาบอดค่ะ งานแรกของพวกเราทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว เพี๊ยซเลยประเดิมด้วยการพาคนตาบอดตกบันได! เหงื่อตกเลย สงสารมันจริงๆ ไม่รู้ว่าจะได้บุญหรือบาป!! เราไปที่แรกคือวัดพระแก้ว สนุกมากเลย เรารู้สึกเหมือนไปเป็นล่ามเลย ไม่รู้สึกว่าไปดูแลคนพิการเลย สนุกมากๆ ตอนแรกหน้าที่ของปู้ยต้องดูแลคนตาบอดไปๆมาๆ เป็นตากล้องให้ด้วย ดีจริงๆ วันนั้นอากาศก็ดี แดดไม่ร้อนเลย เสร็จแล้วเราก็ไปสวนสันติชัยปราการกัน ไปกินข้าวคราวนี้พวกเราแปลงร่างเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารแบบ delivery ด้วยนะ คุ้มจริงๆ แล้วปุ้ยก็ต้องพาพนักงานญี่ปุ่นไปชาร์ตแบตโน็ตบุ๊คที่ มธ. เดินไปเดินกลับซะกล้ามขึ้นขาเลย เสร็จแล้วปุ้ยกับเพี๊ยซก็ขอตัวกลับก่อน วันนั้นเป็นวันที่เรารู้สึกสนุกมาก ถ้าว่างๆก็จะไปทำอีก เรารู้สึกว่ามีค่าขึ้นนะที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง อาจมีอะไรที่เราสองคนโก๊ะไปบ้าง แต่มันก็สนุกดีนะ ทำให้เค้าได้ประสบการณ์แปลกๆไปอีกอย่างนึง สรุปแล้วพวกเรารู้สึกสนุกแล้วก็มีความสุขมากค่ะ วันถัดมา ปุ้ยลุกจากเตียงไม่ไหวเลย เหนื่อยมาก!!!!